Sunday, September 30, 2012

การถ่ายภาพน้ำตก


การถ่ายภาพน้ำตก ไม่มีอะไรยากครับ หากท่านต้องการภาพน้ำตกสวย ๆ ที่ไม่เหมือนกับการใช้กล้องคอมแพ็คทั่วไปในการถ่าย ท่านจะต้องเรียนรู้การถ่ายภาพในโหมด TV สำหรับกล้องแคนนอน และโหมด S สำหรับกล้องนิคอนนะครับ
ซึ่งผู้ถ่ายภาพต้องรู้วิธีเลือกใช้ความเร็วชัตเตอร์ การควบคุมช่องรับแสง F วัดแสงให้ถูกต้องกับภาพที่ต้องการ และเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การใช้ฟิลเตอร์ CPL, การจัดองค์ประกอบภาพ เพียงแค่นี้ท่านก็จะได้ภาพน้ำตกสวย ๆ แล้วนะครับ

รับสอนการถ่ายภาพน้ำตก สนใจติดต่อ Thailightroom@gmail.com นะครับ

สถานที่ใกล้กรุงเทพฯ ที่มีน้ำตก ก็มีใกล้ที่สุดก็ Dream World ดรีมเวริ์ล์ อยู่แถวรังสิต ปทุมธานี นะครับ
นอกจากนั้นก็เป็นต่างจังหวัด ก็เช่นที่ใกล้ๆกรุงเทพฯ

1.น้ำตกเหวนรก เขาใหญ่ โคราช
2.น้ำตกเหวสุวัติ เขาใหญ่
3.น้ำตกหมันแดง ภูหินร่องกล้า
4.น้ำตกแม่ยะ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
5.น้ำตกเต่าดำ คลองวังเจ้า จ.กำแพงเพชร
6.น้ำตกโกรกอีดก สระบุรี


อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการถ่ายภาพน้ำตก

1. กล้อง dslr
2. ขาตั้งกล้อง
3. สายกดชัตเตอร์
4. C-PL FILTER (ถ้ามี)


ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการ การถ่ายภาพน้ำตก 

คือช่วงเช้า และช่วงเย็น เพราะว่าช่วงเวลาดังกล่าวนั้น เป็นช่วงที่มีความแตกต่างกันของแสง น้อยที่สุด ซึ่งก็คือ contrast นั้นเอง เช่นถ้าถ่ายน้ำตกตอนกลางวัน ภาพที่ออกมาจะไม่สวย เนื่องจากน้ำตกจะมีความมืด และความสว่างที่แตกต่างกันมากจนเกินไป ซึ่งเป็นสิ่งที่นักถ่ายภาพน้ำตกไม่อยากเจอ เพราะถ่ายมายังไงก็ไม่สวย



เพราะในภาพเดียวมันจะมีทั้งส่วนมืด และสว่าง และการวัดแสงก็ทำได้ยาก 

ดังนั้นจึงควรรอเช้า หรือเย็นเลย เพื่อให้ความสว่างทั้งภาพใกล้เคียงกัน หรือไม่ก็ต้องรอให้เมฆเข้ามาปกคุลม และแสงแดด หายไป ก็พอไหวครับ 


การตั้งค่ากล้องสำหรับการถ่ายภาพน้ำตก

1. F 22 เปิดช่องรูรับแสงแคบๆไว้ เพื่อภาพที่คมชัด แน่นอนว่า F ขนาดนี้ใช้มือถือไม่ได้แน่นอน ต้องใช้ขาตั้งกล้องนะครับ
2. ISO 100 ไปเลยครับ เพื่อความคมชัด
3. ใช้โหมด M ในการถ่าย เพื่อต้องการวัดแสงด้วย
4. Spot Meter วัดค่าแสงแบบจุด
5. การตั้งสมดุลสีของแสง หรือที่เรียกว่า White Balance

หากมีแดดออกแนะนำให้ตั้งไว้ที่ Daylight หรือ Auto ก็ได้ 
หากไม่มีแดดให้ตั้งไว้ที่ Shade หรือ Auto 
หากอยู่ในป่ากลางหุบและมีแสงสีเขียวสะท้อนมาก แนะนำให้ใช้ Custom White Balance 

การวัดแสงในการถ่ายภาพน้ำตก



การวัดแสงในการถ่ายภาพน้ำตก จะมีปัญหาดังนี้คือ หากภาพมีส่วนที่เป็นสายน้ำสีขาวมาก ภาพมักจะมืดกว่าปกติ ทำให้สายน้ำไม่ขาว ส่วนภาพที่มีส่วนต้นไม้ในเงา หรือมีหินสีเข้ม ๆ มาก ภาพมักจะสว่างมากกว่าปกติ รวมทั้งมักจะมีแดดส่องเป็นส่วนๆ แสงไม่สม่ำเสมอ ทำให้ภาพมืดสว่างเป็นส่วนๆ อีกด้วย

ระบบวัดแสงเฉพาะจุด Spot Metering ใช้กับการถ่ายภาพน้ำตกได้ดีมาก โดยเบื้องต้น ให้ทำการวัดแสงที่ตัวใบไม้ หรือต้นไม้ 

แต่ถ้าเป็นสภาพอากาศครึ้ม ๆ แดดไม่ออก แนะนำให้วัดแสงส่วนสายน้ำที่ขาวที่สุดในภาพ แล้วเปิดรับแสงเพิ่มขึ้น 1-1.5 stop คำแนะนำสำหรับผู้ที่เริ่มใช้ระบบวัดแสงเฉพาะจุดใหม่ ๆ คือ ควรถ่ายภาพคร่อมค่าการเปิดรับแสงเอาไว้ด้วย รวมทั้งดูค่า Histogram ด้วยเช่นกัน

การวัดแสงสำหรับกล้องดิจิตอล DSLR ในการถ่ายภาพน้ำตก

1. ควรวัดแสงเฉพาะจุดบริเวณสายน้ำ แล้วชดเชยแสงโอเวอร์ 1.5 stop สำหรับสายน้ำที่โดนแสงปกติ และ 2 stop สำหรับสายน้ำที่โดนแสงแรงๆ
    หรือวัดแสงตรงที่เป็นสีเขียว ต้นไม้ ใบไม้ เป็นต้น ให้ค่าแสงมาอยู่ที่เลข 0 ตรงกลางพอดี จากนั้นก็ถ่ายภาพตามปกติ



การจัดองค์ประกอบภาพในการถ่ายภาพน้ำตก

1. โดยส่วนมาก การถ่ายภาพน้ำตก มักจะใช้เลนส์ wide  เลนส์มุมกว้างนั้นสามารถเก็บ เส้นทางการไหลของสายน้ำได้มากที่สุด

2. หาฉากหน้าสวยๆ มาช่วยสร้างสรรค์ภาพ ดังรูปตัวอย่าง


การใช้ฉากหน้า สร้างสรรค์ภาพ